คำถามเกี่ยวกับนิ่วในถุงน้ำดีและการทำงานของตับ

โดยปกติแล้วถุงน้ำดีจะมีการบีบตัว เพื่อหลั่งน้ำดีที่เข้มข้นออกมาช่วยในการย่อยไขมันและกระตุ้นให้เอนไซม์ที่หลั่งมาจากตับอ่อนทำงานได้ดี แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยมีอาการ  จุก เสียด บริเวณลิ้นปี่ หรือในบางครั้งอาจมีการปวดร้าวไปถึงหลัง เรียกว่า Gallbladder Attack เกิดขี้นเนื่องจากในถุงน้ำดีมีนิ่วในถุงน้ำดีมีปริมาณมาก และจับตัวแข็ง แน่น ทำให้เมื่อถุงน้ำดีไทำการบีบตัวตามปกติไม่สามารถบีบตัวได้ ส่งผลให้เกิดอาการจุก เสียด แน่น ท้องหลังทานอาหาารตามมา หลังจากที่ผู้ป่วยทำการล้างพิษตับและนิ่วในถุงน้ำดี ส่งผลให้นิ่วที่ค้างอยู่ในถุงน้ำดีมีปริมาณน้อยลง และขนาดเล็กลง ส่งผลให้อาการจุก เสียด บริเวณลิ้นปี่ ลดลงไปโดยปริยาย
โดยปกติตับมีหน้าที่ในการสร้างน้ำดีเพื่อมาช่วยในการย่อยไขมัน และอาหารต่างๆ นอกจากนี้การที่น้ำดีหลั่งจะช่วยให้เอนไซม์ที่หลั่งออกมาจากตับอ่อนทำงานได้ดีขี้น ทำให้การย่อย และดูดซึมอาหารเป็นไปอย่างสมบูรณ์ แต่ในกรณีของผู้ที่มีสารพิษตกค้างหรือตรวจพบนิ่วในถุง้นำดี ส่วนหนึ่งเกิดมาจากการที่น้ำดีมีความหนืดสูงเนื่องจากประกอบไปด้วยกรดไขมัน และเกลือน้ำดีที่ไม่สมดุล ทำให้น้ำดีมีการตกตะกอนเป็นก้อนทิ้งค้างไว้ในท่อแขนงตับ ถุุงน้ำดี และท่อน้ำดี เมื่อการตกตะกอนดังกล่าวมีปริมาณที่มากขี้นก็จะไปอุดตันทำให้น้ำดีไม่สามารถหลั่งได้อย่างปกติ อาหารจึงไม่ได้รับการย่อยที่ลำไส้เล็กตอนบน อาหารที่เกิดการหมักหมม ไม่ได้ย่อย จะสร้างแก๊ซขึ้นมาในกระเพาะ กลายเป็นลม ก่อให้เกิดอาการท้ัองอืดเฟ้อ ในกรณีของผู้ที่มีอาการรุนแรง การเกิดเป็นลมดังกล่าวสามารถตีขี้นไปด้านบนเข้าสู่ช่องอาหาร พร้อมกับด้นเอาน้ำย่อยขี้นไปด้วย เมื่อประกอบกันการที่กระเพาะทำงานไม่สมบูรณ์อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว กลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการของโรคกรดไหลย้อน
เครื่องอุลตร้าซาวด์เป็นเครื่องที่ใช้หลักการของคลื่นเสียงความถี่สูงในการตรวจ โดยอาศัยการสะท้อนเสียงของคลื่นเสียงเป็นตัวบ่งบอกถึงวัตถุแปลกปลอม ด้วยเหตุนี้เองในกรณีที่วัตถุมีความแหนาแน่นของมวลวัตถุสูง ก็จะมีเสียงสะท้อนมาก ทำให้ความแม่นยำในการตรวจมีมาก แต่ในกรณีของวัตถุที่มีความหนาแน่นของมวลวัตถุต่ำ คลื่นเสียงจึงสะท้อนได้ต่ำ ความแม่นยำในการตรวจจึงไม่สูงเท่ากับในกรณีแรก จากหลักความเข้าใจที่ได้กล่าวมาแล้ว 90% ของก้อนนิ่วที่พบในถุงน้ำดีของเราเป็นก้อนนิ่วคอเลสเตอรอลซึ่งจะมีลักษณะนิ่ม ด้วยเหตุนี้โดยทั่วไปความหนาแน่นของมวลวัตถุของก้อนนิ่วจึงต่ำ เราจึงอาจไม่พบก้อนนิ่วดังกลา่าวโดยการใช้เครื่องอุลตร้าซาวด์ในการตรวจ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าความรู้ทั้งหลายของวิทยาศาสตร์ประยุกต์เป็นความรู้ที่เกิดขี้นเนื้องมาจากการคิดค้นบนระบบตรรกะที่เคยเกิดขี้นมาก่อนแล้ว ทั้งนี้รวมถึงความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์ซึ่งก็ก็มีการแพทย์หลากหลายให้เราสามารถเลือกใช้ ในบริบทของวิทยาศาสตร์การแพทย์แผนปัจจุบันเองก็มีแนวคิดที่แตกต่างจากการแพทย์แผนธรรมชาติบำบัด กล่าวคือการแพทย์แผนปัจจุบันเน้นการรักษาอาการ จึงเอื้อให้กับการรักษาโรคเฉียบพลัน เช่น ขา แขนหัก รวมถึงการรักษาอาการต่างๆ เช่น น้ำมูก เป็นไข้ เป็นต้น ในขณะเดียวกันการแพทย์แผนนธรรมชาติบำบัดเน้นการรักษาที่ต้นเหตุที่แท้จริงของปัญหา จึงเหมาะกับการรักษาโรคเรื้อรังและใช้ศาสตร์การแพทย์ฟื้นฟูการทำงานของอวัยวะต่างๆเข้ามาช่วยเหลือ เช่น เป็นโรคภูมิแพ้เรื้อรังทำให้เกิดน้ำมูกบ่อยครั้ง แพทย์แผนธรรมชาติบำบัดมักจะตรวจดูสารพิษที่คั่งค้าง เนื่องจากมีความเชื่อว่าเกิดจากสารพิษไปสร้างความระคายเคืองให้ระบบท่อในร่างกาย ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายสร้างมูกออกมาตามระบบท่อเพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองนั้น ด้วยแนวตรรกะที่แตกต่างนี้เอง ทำให้แพทย์ทั้งสองทางมีความเห็นในการรักษาโรคชนิดเดียวกันที่แตกต่าง ในกรณีของการมีนิ่วในถุงน้ำดี แพทย์แผนปัจจุบันที่แนะนำให้มีการผ่าตัดแม้คนไข้จะยังไม่มีอาการถุงน้ำดีอักเสบ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการต้องการตัดความเสี่ยงในกรณีที่อาการเป็นมากไปกว่านี้ และมองว่าอาการดังกล่าวเป็นอาการเฉียบพลัน ขณะเดียวกันในกรณีของแพทย์แผนธรรมชาติบำบัด มองว่าการมีนิ่วในถุงน้ำดีไม่ถือเป็นออาการเฉียบพลัน จึงจะเน้นรักษาโดยการกระตุ้นให้ร่างกายขับก้อนนิ่วในถุงน้ำดีออกมาเอง โดยการสร้างสภาวะที่เหมาะสมให้ร่างกายสามารถขับสารพิษที่เกิน เพราะตระหนักว่าก้อนนิ่วในถุงน้ำดีเป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บป่วยต่างๆ กระนั้นก็ตามแพทย์แผนธรรมชาติบำบัดก็มีจุดอ่อน เนื่องจากต้องใช้เวลารักษา ไม่เหมาะกับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและต้องการการรักษาแบบเฉียบพลันในทันทีทันใด ด้วยหลักเหตุ ปัจจัย ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ผู้ป่วยโรคนิ่วในถุงน้ำดีที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลแพทย์แผนปัจจุบัน มักไม่ได้รับความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แขนงอื่น และไม่มีทางเลือกอื่นมากนักนอกจากการเข้ารับการผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออกเพื่อรักษาอาการของโรคนิ่วในถุงน้ำดี
แทนที่เราจะพิจารณาจากองค์ประกอบด้านเคมี และความเป็นไปได้ของการเกิดสบู่จากสารที่ทานเข้าไป เราอยากให้ท่านพิจารณาจากข้อมูลจากประสบการณ์จริงของผู้ที่ทำการล้างพิษตับและนิ่วในถุงน้ำดีกับเราที่เราได้ทำการสอบถาม ติดตามอาการหลังการล้างพิษ และรวบรวมไว้จากการจัดคอร์สล้างพิษหลายครั้งที่ผ่านมา จากการศึกษารวบรวม เราพบว่ากว่า 70% ของผู้ที่ทำการล้างพิษกับเรา เป็นผู้ที่ได้รับการตรวจอุลตร้าซาวด์แล้วพบว่ามีก้อนนิ่วในถุงน้ำดี หลังจากที่ทำการล้างพิษแล้ว หลายท่านได้เข้าตรวจอุลตร้าซาวด์พบว่าก้อนนิ่วมีขนาดเล็กลงอย่างมีนัยยะสำคัญ ขณะเดียวกันก้อนนิ่วก็มีจำนวนลดลงอีกด้วย ทั้งนี้นอกจากจะขึ้นอยู่กับอาการความรุนแรงของอาการต่างๆก่อนหน้า ก็ยังขึ้นอยู่กับความถี่ในการล้างพิษของท่านเหล่านี้อีกด้วย นั้นคือ หากทำการล้างพิษถี่ และบ่อยมากเท่าใด ขนาดและปริมาณของก้อนนิ่วที่ยังคงค้างอยู่ในถุงน้ำดีก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้เมื่อพิจารณาตามอาการของผู้ป่วย พบว่าอาการต่างๆที่เกิดขี้นเนื่องมาจากการมีนิ่วในถุงน้ำดีเช่น ท้องอืด เฟ้อ เรอลม มีแก็ส อาการจุกเสียด หลังทานอาหาร ก็ลดลงอย่างชัดเจนไปพร้อมๆกันอีกด้วย ทั้งนี้เมื่อเรานำผลอุลตร้าซาวด์ ตลอดจนเปรียบเทียบดูอาการที่ดีขี้นอย่างมีนัยยะสำคัญของผู้ป่วยแล้ว เราจึงสามารถปักใจเชื่อได้ว่าก้อนสีเขียวที่หลุดออกมาจากการถ่าย เป็นก้อนนิ่วในถุงน้ำดีจริงๆ
90% ของนิ่วในถุงน้ำดีเป็นนิ่วคอเลสเตอรอล ซึ่งมีลักษณะนิ่ม ไม่แข็ง หากตกในน้ำจะลอย ไม่จม ด้วยเหตุนี้เมื่อลองนำนิ่วดังกล่าวมาบี้ดูจะมีนิ่ม คล้ายดินน้ำมัน หรือเม็ดแป้ง ในกรณีของผู้ที่มีสารพิษสะสมมาก นิ่วในถุงน้ำดีดังกล่าวจะมีกลิ่นเหม็นคาว ในขณะเดียวกันก้อนนิ่วบางส่วนก็เป็นก้อนนิ่วแคลเซียม ซึ่งมีลักษณะแข็ง และมีสีขาว คล้ายก้อนหิน เนื่องมาจากมีแคลเซียมที่ร่างกายต้องการขับออกมาทางท่อน้ำดีเกาะก้อนนิ่วอยู่ จึงมีลักษณะแข็ง และจมน้ำ
ก้อนสีเขียวที่หลุดออกมาขณะถ่ายนั้นถือว่าเป็นก้อนนิ่วคอเลสเตอรอล ซึ่งถือเป็น 90% ของก้อนนิ่วที่พบในถุงน้ำดี ด้วยเหตุนี้เมื่อทำการบี้ดูจะพบว่าสามารถบี้ได้ ไม่แข็ง ผู้ใช้หลายคนพบว่าก้อนนิ่วของตนเองมีสีเขียวเข้ม คล้ายสีทับทิม ซึ่งสีของก้อนนิ่วด้งกล่าวเกิดมาจากการกลั่นตัวของน้ำดีซึ่งประกอบไปด้วยบิลลิรูบิน สารสีเขียวซึ่งถูกสร้างออกมาจากเลือดของคน